วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Factors of Production : ปัจจัยการผลิต

ปัจจัยการผลิต(Factors of Production)

เริ่มคิดตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดยสำนักคลาสิค โรงเรียน Physiocracy


คือ ทรัพยากรที่ใช้เพื่อการผลิตเป็นสินค้าและบริการ
ในความหมายทางเศรษฐศาสตร์แบ่งปัจจัยการผลิตเป็น 4 ประเภท ดังนี้

Factors of Production

ที่ดิน (Land) ซึ่งใช้เป็นที่ของอาคารโรงงานที่ทำการผลิต รวมถึงทรัพยากรที่อยู่ในดิน โดยผลตอบแทนของที่ดินได้แก่ ค่าเช่า (Rent)

แรงงาน (Labour) หมายถึง ความคิดและกำลังกายของมนุษย์ได้นำไปใช้ในการผลิต โดยมีผลตอบแทนคือ ค่าจ้าง (Wage or Salary)

ทุน ( Capital) ในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ หมายถึง สิ่งก่อสร้าง และเครื่องจักรเครื่องมือที่ใช้ในการผลิต นอกจากนี้ทุนยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

เงินทุน (Money Capital) หมายถึงปริมาณเงินตราที่เจ้าของเงินนำไปซื้อวัตถุดิบ จ่ายค่าจ้าง ค่าเช่า และดอกเบี้ย
สินค้าประเภททุน (Capital Goods) หมายถึง สิ่งก่อสร้าง รวมถึงเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตเป็นต้น รวมถึงสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใช้แรงงาน เช่น ควายสำหรับไถนา เป็น 
ต้นผลตอบแทนจากเงินทุน คือ ดอกเบี้ย (Interest) 


(ทุนทางเศรษฐศาสตร์ ไม่เหมือน ทุนทางธุรกิจที่เป็นเงินสด)
chart

charผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) หมายถึง บุคคลที่สามารถนำปัจจัยการผลิตต่าง ๆ มาดำเนินการผลิตให้มีประสิทธิภาพที่สุด โดยอาศัยหลักการบริหารที่ดี การตัดสินใจจากข้อมูลหรือจากเกณฑ์มาตรฐานอย่างรอบคอบ รวมถึงความรับผิดชอบ ผลตอบแทน คือ กำไร (Profit)

ตารางสรุป

Factors of Production In Economics Chart

แนวข้อสอบที่ออกบ่อย
1."แรงงานสัตว์ที่มนุษย์นำมาเลี้ยงและฝึกปรือใช้งาน" เป็นปัจจัยการผลิตอะไร
ก.วัตถุดิบการผลิต(ส่วนนี้รวมอยู่ในทุน ไม่ใช่ปัจจัยการผลิตดังนั้นผิด)
ข.แรงงาน(ข้อลวง ผิดเนื่องจากแรงงานใช้สำหรับแรงหรือสติปัญญาของมนุษย์เท่านั้น)
ค.ทุน(ถูก เพราะ แรงงานสัตว์ถือเป็นทุนในทางเศรษฐศาสตร์)
ง.ปัจจัยขั้นต้น(ไม่อยู่ในปัจจัย 4 ข้อ ของปัจจัยการผลิตดังนั้นผิด)

Prof. Benham, "Anything that contributes towards output is a factor of production."



ต่อไปภาพวัฏจักรการผลิต

ค่ายสอวน.คอมพิวเตอร์ศิลปากร

#include <stdio.h>
main ()
{
     printf ("เข้าค่ายสอวน.นี้เข้าไปตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ แต่ยังประทับใจไม่หายเลย กะว่าจะมาเล่าให้กับน้องๆ รุ่นหลังๆที่เกิดอาการตื่นเต้นตอนรู้ผลเข้าค่ายหนึ่งแล้ว ในค่ายจะเป็นอย่างไรนะ? ");
}
     
/*
คร่าวๆนะค่ะว่าเข้าค่ายคอมมาได้เพราะเรียนรู้เรื่องภาษาซีมาจากโรงเรียนแล้ว (ข้อสอบภาษาซีที่ออกก็ง่ายมาก) เลขที่สอบเข้าค่ายคอมก็ง่ายๆ เฉพาะของม.ต้นค่ะ (ซึ่งเราอยู่ม.ห้าแล้ว) เลยสามารถสอบเข้าได้ และตัดสินใจเข้าค่ายแทนที่จะไปเรียนพิเศษ เพราะนี่คือครั้งหนึ่งในชีวิต อยากหาประสบการณ์ใหม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดีๆอย่างนี้ค่ะ
*/

/*
โดยทางศูนย์จะให้ส่งใบตอบรับ เลือกว่าจะไปกลับ หรือนอนหอ คนที่อยู่ใกล้ๆไป-กลับกันเยอะแยะเลยค่ะ แต่เราคนบ้านไกล เลยต้องนอนหอไป น่าตื่นเต้นมากๆ เพราะนอนหอตั้งสิบห้าวันน่าสนุกดี
*/

/*
ก่อนวันเข้าค่ายต้องไปรายงานตัวที่หอ หอหาง่าย อยู่ใกล้คณะวิทย์ ทางศูนย์จะติดป้ายใหญ่ๆชี้ทางให้ หาไม่ยาก พอรายงานตัวเสร็จก็นำของเข้าเก็บ(ผู้ปกครองห้ามขึ้นหอ) หอจะปิดตอนสามทุ่มทุกวัน มีร้านมาเก็บเสื้อไปซัก-รีดให้ค่าใช้จ่ายไปดูกันเองนะค่ะ เผื่อจะเกิดเงินเฟ้อ
*/

/*
เช้าวันต่อมาตื่นปกติค่ะ หกโมง ทานอาหารเช้าที่โรงอาหารแอร์เย็นชํ่า (กับข้าวอร่อย เยอะแบบไม่อั้นเลี้ยงดีสุดๆ) วันแรกเริ่มด้วยการเปิดโครงการ พิธีง่ายๆสบายๆ ไม่เกินชั่วโมงค่ะ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเรียนตามค่ายที่เข้า ค่ายคอมนี่ห้องคอมตลอดค่าย ยกเว้นเรียนเลขที่จะเปลี่ยนสถานที่นิดนึง แล้วทางค่ายจะมี อาหารว่างเช้า บ่ายให้ค่ะ กินอาหารเที่ยงก็ปกติ แต่อาหารเย็นนี่กินเร็วมาก เลิกจากค่ายก็กินเลย ประมาณห้าโมงค่ะ ถ้าค่ายนี้จะหิวก็ตอนดึกๆเนี่ยล่ะค่ะ เตรียมกันไปก็ดีนะค่ะ ที่หอมีกระติกนํ้าร้อนให้ แต่ต้องเติมนํ้าเสียบปลั๊กเอง อ๋อ วันแรกเรียนคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ฮาร์แวร์ ซอฟต์แวร์ทฤษฎีทั่วไป เรียนไปหลับไป และไม่ออกสอบ =='
*/

/*
เช้าวันถัดๆไป เรียนภาษาซีล้วนๆค่ะ สอยสามสิบนาทีแรก ที่เหลือเขียนโปรแกรมค่ะ ฝึกคิดด้วยตัวเองตลอด ลองผิดลองถูกเอง ส่วนเรื่องสอบ อาจารย์แต่ละคนจะมีคะแนนให้สำหรับแต่ละคน แล้วสองวันสุดท้ายก็จะมีสอบค่ะ ทฤษฎีเล็กน้อย แล้วก็มีโจทย์ให้ทำ เสร็จ
*/

/*
ที่น่าตลกคือ
1.เด็กค่ายเลขกับคอมอ่านน้อยมาก แทบไม่จำ คือสูตรฟังก์ชั่นก็ชินและจำไปเอง ก่อนวันสอบบางคนยังเล่นเกมส์อยู่เลย
2.ค่ายอื่นเครียดมาก
3.เด็กค่ายคอมอยู่หน้าจอได้ 8 ชั่วโมงตอนเรียน ไม่นับกลับหอไปเล่นอีก ต่อวัน ไม่บ่น ชอบ
4.เด็กค่ายอื่นเค้ารู้จักกันในค่ายสนิทชิดเชื้อ แต่เด็กค่ายคอมจะรู้จักแค่คนข้างซ้ายกับขวา กับหน้าจอคอมเท่านั้น
5.เด็กค่ายคอมชิวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
6.บางคนพกหมอนมาเรียนด้วย
*/

/*
ต่อค่ายสอง
เจอกับคนเดิม แต่ ไม่รู้จักกันเหมือนเดิม
*/

// ขอให้สนุกกับการเข้าค่ายนะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

ม่านรักมังกรฟ้า ตอนที่ 1

คงไม่จริงมั้ง
ไม่มีหรอกใครสักคนหนึ่งจะโชคร้ายขึ้นเครื่องเลทแบบว่าเลทมาก มาถึงสนามบินนี่วิ่งแถบขอขวิดกัน
ไม่มีหรอกแอร์ที่ไหนจะให้คนขึ้นเครื่องผิดมาถึงแม้จะรีบๆมากก็เหอะ
ไม่มีหรอกใครเค้าจะบินมาห่งไกลจุดหมายขนาดนั้น
ไม่มีหรอกประเทศที่หาตั๋วเครื่องบินยากขนาดหาไม่ได้เลยอ่ะ
ไม่มีหรอกที่บังเอิญเครื่องจกน่ะ
ไม่มีหรอกใช่มั้ย

นี่ชั้นยังซวยไม่พอใช่มายยยยยยยยยยยย

ตอนนี้อยู่ในฟ้า
ในเครื่องบินอีกที
แปลกใจมากที่เห็นทิวทัศน์เป็นภูเขาสวยงาม
แทนที่จะเป็นตึกสูงๆของอเมริกา
เอ๋
หรือจะเป็นรัฐที่แห้งแล้งกันนะอเมริกาก็มีพื้นที่แห้งแล้ง อาทิเช่นรัฐเท็กซัส
แล้วทำไมหิมะเยอะจัง

"สักครู่เราจะลงจอดที่สนามบินทิมพู ประเทศภูฏานแล้วนะครับ ตอนนี้เวลา 12.20น.ครับรัดเข็มขัดด้วยนะครับ"
หา!!! เมื่อกี้กัปตันพูดว่าอะไรนะค่ะ หนูไม่เข้าใจ

WOMEN's DAY

CLARE ZETKIN ผู้คลอดวันสตรีสากล
ทำไมผู้หญิงต้องมาเรียกร้องอะไรๆที่สมควรมีต้องแต่ต้น
ทำไมอะไรๆที่ควรมีตั้งแต่ต้นถึงยังไม่มี

ทำไมในช่วงแรกๆของโลกที่มนุษย์ถือกำเนิด
ไม่ให้สตรีเป็นหัวหน้าล่ะ

ก็พอเข้าใจนะว่าสตรีอ่อนแอกว่า บอบบางกว่า

แล้วทำไมผู้หญิงสมัยก่อนทนได้แล้วผ้หญิงสมัยนี้ทนไม่ได้ล่ะ

ก็พยายามนึกแล้วหาคำตอยให้ตัวเอง
ในสมัยเมื่อมนุษย์ยุคแรกๆเกิดขึ้นมาอย่างอดัมกับอีฟ
หรือไม่ก็ จากพวกลิงที่ถูกเนรเทศออกจากป่าก็เถอะ
สรีระหญิงกับชายต่างกัน
ชายแข็งแรงใหญ่โตกว่า หญิงเล็กบอบบางกว่า

พอคิดมาถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นได้ว่า
อ้าวแล้วทำไมกบตัวเมียถึงตัวโตกว่าตัวผู้อ่ะ
ทำไม?
ลูกโตในท้องรึก็ไม่ใช่
แค่ไข่เยอะๆนี่น้า
หรือว่าเพราะไข่เยอะๆไงก็เลยตัวใหญ่ผู้หญิงมีแค่ 400 ไข่จากทั้งชีวิตนี่ ตกมาเดือนล่ะฟองอ๋อๆๆ
แต่ว่าเด็กก็โตในท้องนะ
อ้าว?

เดี๋ยวต้องค้นหน่อยล่ะ
ไปหากัน

Leadership

เมื่อเร็วๆนี้ได้อ่านหนังสือที่มีประโยชน์มาเล่มหนึ่งค่ะ
หนังสือเล่มนั้น "น่าทึ่ง" และ "สร้างประโยชน์" อย่างมหาศาลเลยที่เดียว
หนังสือเล่มนั้นเอาแต่พูดในการทำงานของหัวหน้างานที่ไม่แทรกแซงค่ะ
แล้วก็เอาแต่บ่นว่าหัวหน้างานส่วนมากน่ะ เอาแต่คอยบงการ
นำทุกเรื่องมาไว้ที่ตัวเอง
ทำจนตัวเองยุ่ง
ยุ่งทั้งงานในส่วนของตนเอง
ยุ่งทั้งเรื่องของลูกน้องด้วย
กลัวว่างานจะไม่ได้มาตรฐานไม่ถูกใจ

ซึ่งเราต้องจับหัวหน้างานเหล่านั้นมาทำความเข้าใจกันใหม่ค่ะ
1.หน้าที่ของหัวหน้างาน
-ไม่ใช่รับทำงานทุกอย่าง ต้องคิดด้วยตนเองทุกอย่าง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้คนในทีมของคุณทำในสิ่งที่เป็นพรสวรรค์ของเขาเพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์ของการทำงาน
-ดึงศักยภาพในตัวของสมาชิกในทีมคุณออกมา คนที่เป็นหัวหน้างานไม่ใช่คนที่ไม่วิสัยทัศน์ไกลเพียงอย่างเดียวการที่คุณมองเห็นความเป็นไปในอีก 10 ปีข้างหน้านั้นไม่สร้างประโยชน์สำหรับปัจจุบันนัก
ที่คุณต้องทำคือการมีวิสัยทัศน์ลึกเข้าไปในสมาชิกในทีมด้วย ดึงศักยภาพของเขออกมา
-การที่คุณยุ่งเกินไปจะไปปิดบังโอกาศที่คุณจะได้สังเกต ได้คิดพัฒนาความสามารถขององค์กร
ดังนั้นอย่าทำตัวยุ่ง
-หาเวลาที่คุณจะต้องว่างบ้าง เพราะความคิดดีๆจะออกมาตอนที่คณว่างนั่นแหล่ะ ที่ต้องถามคือเวลาไหนคือเวลาว่างและเวลาปลดปล่อยของคุณ

แค่คราวๆค่ะ เพราะมีหลายคำหลายประโยคที่เราจะต้องตีความกันอีก
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่เราได้เรียนรู้คือ
การสร้างทีมน่ะ ผู้นำไม่ใช่คนที่ีทำทุกอย่างค่ะ แต่เป็นคนที่มองสมาชิกในทีมออกและวางตำแหน่งในงานที่เขาถนัด

แล้วงานที่มีประสิทธิภาพก็จะเผยออกมาให้เหนเอง

โชคดีนะค่ะ
Leader ทั้งหลาย

หนังสือที่อ่าน ชื่อว่า วิธีสร้างแรงจูงใจคน โดย Steve Chandler & Duane Black สำนักพิมพ์ บีมีเดีย ค่ะ

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เรื่องเล็กที่ไม่เล็กของเด็กกิจกรรม

น่าเบื่อจริงนะค่ะ ถ้าเราต้องทำงาน
แล้วบังเอิญคนที่เราทำงานด้วยนั้นไม่สนิท และไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไร

บางทีเป็นไปได้ว่าเราทีทัศนคติไม่ดีกับเขา
บางทีเขาเองนั้นแหล่ะที่มีอคติกับเรา
บางทีไม่ชอบใจกันทั้งคู่

แล้วเราจะทำอย่างไรค่ะหากจำเป็นจริงๆที่จะต้องจับงานชิ้นเดียวกัน
เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ตอนนี้มีงานเล็กๆที่ไม่เล็กสำหรับเด็กเริ่มทำงานค่ะ
คือเราจะต้องเป็นแกนในการจัดงานๆหนึ่ง
แล้วทีนี้ก้อมีแกนขึ้นมา 2 กลุ่ม
ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ ก็ดีเหมือนกันมีคนมาช่วย
แต่แล้วก้อมีเรื่องทะเลาะจนได้
อ่ะ ๆ ฉันว่าอย่างนั้นไม่ดีเลยนะ
อ่ะ ๆ เธอทำอะไรหน่ะ (ไร้รสนิยมสิ้นดี)
อ่ะ ๆ (ขัดนักทำเองกลุ่มเดียวไปเลย)



แบบนี้เคยเกิดมั้ยค่ะ
ฉันเชื่อว่าอย่างนี้ต้องมีบ้าง
เพราะเราอยากให้งานออกมาดี


>>>>
ในแบบที่คิดไว้

แต่กลับมาคิดดูแล้ว
ความคิดเขาก็ใช่ว่าจะเลวร้าย
มันไม่ถูกต้องเพราะมันไม่ตรงใจเราเท่านั้นเอง
แล้วแบบนี้ทางที่ถูกต้อง

........
ต้องเลือกแบบไหนค่ะ